วันที่ 14 – 18 มกราคม 2568 คณะนักวิจัยสังกัดคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้ดำเนินกิจกรรมลงพื้นที่เพื่อติดตั้งผลงานวิจัยและนวัตกรรม “ชุดนวัตกรรมสำหรับอบแห้งปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ด” ในโครงการ เรื่อง “ชุดนวัตกรรมสำหรับอบแห้งปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ดเพื่อยกระดับการผลิตของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน สำหรับพื้นที่จังหวัดลำพูน” ที่ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้อนุมัติทุนอุดหนุนการวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2567 เพื่อนำผลการวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาที่สำคัญของประเทศหรือนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ โดยมี วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปุ๋ยอินทรีย์เกษตรยั่งยืนบ้านหนองสมณะ ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นพื้นที่เป้าหมาย
คณะผู้วิจัยประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.จักรมาส เลาหวณิช ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชิดพงษ์ เชี่ยวชาญวัฒนา และ อาจารย์ ดร.ชณัฐ วิพัทนะพร พร้อมด้วย นายปริวัตร เวฬุวนารักษ์ นายธีรเดช ทรงอาจ และนายสมนึก พันเสนา ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ สังกัดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ดำเนินการนำชุดนวัตกรรมสำหรับอบแห้งปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ด ติดตั้ง และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ชุมชน ส่งเสริมให้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ด โดยใช้ชุดนวัตกรรมเพื่อยกระดับการผลิต ได้แก่ อุปกรณ์ลำเลียง อุปกรณ์คัดแยกขนาด และอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุนสำหรับอบแห้งปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ด ที่พัฒนาให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายได้รับนวัตกรรมที่สามารถทำงานได้อย่างสะดวกและเหมาะสมตามบริบทการใช้งาน และส่งเสริมศักยภาพการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ด
โดย รองศาสตราจารย์ ดร.จักรมาส เลาหวณิช ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชิดพงษ์ เชี่ยวชาญวัฒนา และอาจารย์ ดร.ชณัฐ วิพัทนะพร ตำแหน่ง อาจารย์ พร้อมด้วย นายปริวัตร เวฬุวนารักษ์ นายธีรเดช ทรงอาจ และนายสมนึก พันเสนา ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ สังกัดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ดำเนินการลงพื้นที่ติดตั้งนวัตกรรมชุดอุปกรณ์คัดแยกขนาดและอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุนสำหรับอบแห้งปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ด
การดำเนินงานติดตั้งชุดนวัตกรรมในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ จนทำให้พื้นที่สามารถเรียนรู้และใช่งานชุดนวัตกรรมได้อย่างเหมาะสม และทางคณะวิจัยมีแผนการดำเนินงานโครงการติดตาม ปรับปรุง และประเมินผลการดำเนินการเพื่อให้เกิดการใช้งานชุดนวัตกรรมดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตามบริบทการใช้งานของพื้นที่เป้าหมายต่อไป เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการใช้งานนวัตกรรมได้เป็นอย่างดีในทุกมิติ ทั้งมิติด้านการยกระดับกระบวนการผลิตตามโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี มิติทางสังคมและเศรษฐกิจ และการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
